KPI ที่ใช้วัดผลการทำ SEO มีอะไรบ้าง แต่ละอย่างสำคัญอย่างไร

เมื่อพูดถึงการทำ SEO (Search Engine Optimization) การวัดผลและประเมินความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจาก SEO เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยายามในการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานและติดอันดับที่ดีในผลการค้นหาของ Google การวัด KPI (Key Performance Indicator) ของการทำ SEO เป็นการกำหนดตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินความสำเร็จของการทำ SEO เพื่อปรับปรุงแผนงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การวัด KPI (Key Performance Indicator) ของการทำ SEO คือการกำหนดตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินความสำเร็จของการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้ทราบว่ากลยุทธ์ที่นำมาใช้นั้นสามารถบรรลุเป้าหมายได้หรือไม่ และช่วยปรับปรุงแผนงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

KPI ของการทำ SEO จะช่วยให้คุณติดตามความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ เช่น การเพิ่มทราฟฟิก, การปรับปรุงอันดับในหน้า Google, การสร้าง Conversion และการเพิ่มความไว้วางใจในเว็บไซต์

KPI ที่ใช้วัดผลการทำ SEO และความสำคัญของแต่ละตัวชี้วัด

การวัดผลการทำ SEO ไม่ได้มีแค่การดูอันดับในผลการค้นหาของ Google แต่ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน KPI (Key Performance Indicators) ที่เหมาะสมในการวัดผล SEO ได้แก่:

1. อันดับคำค้นหา (Keyword Ranking)

อันดับคำค้นหา (Keyword Ranking) คือวัดอันดับของเว็บไซต์ในหน้าผลการค้นหา (SERP) สำหรับคำค้นหาเป้าหมาย ข้อควรระวังในการวัดผล อันดับที่ดีไม่ได้แปลว่าจะได้ทราฟฟิกคุณภาพเสมอ ต้องดูควบคู่กับ KPI อื่นๆ

• ความสำคัญของ Keyword Ranking
  • เป็นตัวบ่งชี้เบื้องต้นว่า SEO มีผลกระทบต่อการมองเห็นเว็บไซต์หรือไม่
  • การติดอันดับในหน้าแรกช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งานคลิกเข้ามายังเว็บไซต์

2. ปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ (Organic Traffic)

ปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ (Organic Traffic) คือจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์จากการค้นหาแบบธรรมชาติ (ไม่ได้มาจากโฆษณา) ข้อดีของOrganic Traffic จะเป็นตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ Conversion หรือการกระทำที่ผู้ใช้งานทำบนเว็บไซต์

• ความสำคัญของ Organic Traffic
  • แสดงถึงความสามารถในการดึงดูดผู้ใช้งานผ่านคำค้นหาเป้าหมาย
  • ช่วยบอกว่าเว็บไซต์ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากน้อยเพียงใด

3. อัตราการคลิก (Click-Through Rate – CTR)

อัตราการคลิก (Click-Through Rate – CTR) คือเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เห็นเว็บไซต์ใน SERP แล้วคลิกเข้ามา

วิธีการคำนวน CTR

(CTR = (จำนวนคลิก ÷ จำนวนการแสดงผล) x 100)

• ความสำคัญของ CTR
  • บ่งชี้ว่า Meta Title และ Meta Description ดึงดูดผู้ใช้งานได้หรือไม่
  • CTR ที่ต่ำอาจแปลว่าคำค้นหาไม่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

4. อัตราตีกลับ (Bounce Rate)

Bounce Rate คือ เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานที่ออกจากเว็บไซต์โดยไม่คลิกไปยังหน้าอื่น

• ความสำคัญของ Bounce Rate
  • บ่งบอกถึงคุณภาพของเนื้อหาและความเกี่ยวข้องของหน้าเพจต่อผู้ใช้งาน
  • Bounce Rate สูงอาจแปลว่าเว็บไซต์ไม่ตอบโจทย์ความต้องการหรือ UX/UI ไม่ดี

5. เวลาที่ใช้บนเว็บไซต์ (Average Session Duration)

เวลาที่ใช้บนเว็บไซต์ คือ เวลาที่ผู้ใช้งานใช้ในเว็บไซต์โดยเฉลี่ย

• ความสำคัญของ Average Session Duration
  • ชี้ให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาเว็บไซต์
  • เวลาที่มากขึ้นมักแปลว่าเนื้อหามีความน่าสนใจและตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน

6. จำนวนหน้าเพจที่เข้าชมต่อการเยี่ยมชมหนึ่งครั้ง (Pages per Session)

Pages per Session คือ จำนวนหน้าเพจที่ผู้ใช้งานเข้าชมในหนึ่งเซสชัน

• ความสำคัญของ Pages per Session
  • ช่วยวัดว่าเว็บไซต์มีความน่าสนใจหรือมีโครงสร้างที่นำผู้ใช้งานไปยังหน้าที่เกี่ยวข้องได้ดีแค่ไหน

7. Conversion Rate (อัตราการเปลี่ยนแปลงผู้ชมเป็นลูกค้า)

Conversion Rate (อัตราการเปลี่ยนแปลงผู้ชมเป็นลูกค้า) คือ เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานที่ทำเป้าหมายสำเร็จ เช่น การกรอกแบบฟอร์ม การสั่งซื้อสินค้า หรือการสมัครรับข่าวสาร

• ความสำคัญของConversion Rate 
  • เป็น KPI สำคัญที่สุด เพราะแสดงถึงผลลัพธ์ของการลงทุนใน SEO
  • แม้จะมีทราฟฟิกมาก แต่ถ้าไม่มี Conversion ธุรกิจก็ไม่ได้ประโยชน์

8. จำนวน Backlinks และคุณภาพของลิงก์ (Backlink Profile)

จำนวน Backlinks และคุณภาพของลิงก์ หมายความถึง จำนวนลิงก์ที่เว็บไซต์อื่นๆ อ้างอิงมายังเว็บไซต์ของคุณ

• ความสำคัญของ Backlink Profile
  
  • Backlinks ที่มีคุณภาพช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ในสายตา Google
  • ส่งผลโดยตรงต่อการจัดอันดับใน SERP

9. Core Web Vitals

Core Web Vitals คืออะไร Core Web Vitals เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพด้านความเร็วและประสบการณ์ผู้ใช้งาน เช่น

• • Largest Contentful Paint (LCP): ความเร็วในการโหลดหน้าแรก
  • First Input Delay (FID): ความเร็วในการตอบสนอง
  • Cumulative Layout Shift (CLS): การเคลื่อนที่ขององค์ประกอบในหน้า
• ความสำคัญของ Core Web Vitals
  • Google ใช้ Core Web Vitals เป็นปัจจัยจัดอันดับเว็บไซต์
  • ประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ดีช่วยลด Bounce Rate และเพิ่ม Conversion

10. อัตราการกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ (Returning Visitors)

อัตราการกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ (Returning Visitors) คือ เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานที่กลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์อีกครั้ง

• ความสำคัญของ Returning Visitors
  • แสดงถึงความน่าสนใจและความเกี่ยวข้องของเนื้อหาต่อกลุ่มเป้าหมาย
  • การกลับมาใช้งานซ้ำเป็นสัญญาณบวกสำหรับการสร้างแบรนด์

สรุป

การวัดผล SEO ไม่ควรดูเพียง KPI เดียว แต่ควรวิเคราะห์หลายตัวชี้วัดร่วมกัน เพื่อให้เห็นภาพรวมของประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่แท้จริง เช่น การดูอันดับ (Ranking) ควบคู่กับทราฟฟิก (Organic Traffic) และ Conversion Rate จะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุด

พูดคุยกับเรา คลิก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

เพิ่มศักยภาพการทำเว็บไซต์ด้วย SEO!