fbpx

Site Audit

Contact to discuss your project

การทำ Site Audit อย่างสม่ำเสมอเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์สามารถรักษาประสิทธิภาพในระยะยาว และเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดหรืออัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหา หากต้องการคำปรึกษาหรือบริการที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด ติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อเริ่มต้นการทำ Site Audit วันนี้!

ขอบคุณที่กรอกข้อมูลและส่งชื่อเว็บไซต์คุณ! เราได้รับคำขอของคุณเรียบร้อยแล้ว และทีมงานของเรากำลังเริ่มต้นการวิเคราะห์ SEO เว็บไซต์คุณ

เราจะตรวจสอบในประเด็นสำคัญ เช่น:

  • การปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ (Technical SEO)
  • คุณภาพและประสิทธิภาพของคอนเทนต์
  • การใช้คีย์เวิร์ด
  • ความเร็วเว็บไซต์
  • ลิงก์ภายในและภายนอก

รายงานวิเคราะห์ SEO ของคุณจะเสร็จภายใน [ระบุระยะเวลา เช่น 1-3 วันทำการ] โปรดระบุรายละเอียดเพื่อการติดต่อกลับ

การทำ Site Audit คืออะไร

Site Audit คือ กระบวนการตรวจสอบเว็บไซต์อย่างละเอียดเพื่อประเมินคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความสมบูรณ์ในแง่มุมต่าง ๆ เช่น โครงสร้างเว็บไซต์ (Structure), ประสิทธิภาพทางเทคนิค (Technical Performance), เนื้อหา (Content), และประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience หรือ UX) ตามหลัก E-E-A-T โดยมีเป้าหมายเพื่อค้นหาปัญหาและแนวทางแก้ไขที่ช่วยพัฒนาเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

 

ทำไมต้องทำ Site Audit?

การทำ Site Audit เป็นกระบวนการตรวจสอบเว็บไซต์อย่างละเอียด เพื่อประเมินประสิทธิภาพและค้นหาปัญหาที่อาจส่งผลต่อการทำงานของเว็บไซต์ โดยมีความสำคัญในหลายด้าน ดังนี้

เพิ่มประสิทธิภาพ SEO

  • การทำ Site Audit ช่วยตรวจสอบว่าเว็บไซต์ได้รับการปรับแต่งสำหรับเครื่องมือค้นหา (Search Engines) หรือไม่ เช่น การใช้คีย์เวิร์ดอย่างเหมาะสม, การตั้งค่า Meta Tag, และการสร้างโครงสร้าง URL ที่เป็นมิตร
  • ช่วยค้นหาและแก้ไขปัญหา เช่น เนื้อหาซ้ำ (Duplicate Content), การใช้ลิงก์เสีย (Broken Links) และปัญหา Crawlability ที่ทำให้ Google ไม่สามารถจัดอันดับเว็บไซต์ได้ดี

ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience - UX)

  • ช่วยตรวจสอบความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ (Page Speed) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการรักษาผู้เข้าชม
  • วิเคราะห์ความเหมาะสมของการออกแบบและการแสดงผลบนอุปกรณ์ต่าง ๆ (Responsive Design) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ง่าย

เพิ่มความปลอดภัยของเว็บไซต์

  • ตรวจสอบปัญหาด้านความปลอดภัย เช่น การใช้ SSL Certificate, การป้องกัน Malware หรือการป้องกัน Spam
  • ช่วยป้องกันปัญหาที่อาจทำให้เว็บไซต์ถูกแบนหรือถูกลดอันดับในผลการค้นหา

แก้ไขปัญหาทางเทคนิค

  • การทำ Site Audit จะช่วยค้นหาปัญหาที่มองไม่เห็น เช่น Error 404, การตั้งค่าไฟล์ Robots.txt ที่ผิดพลาด หรือปัญหากับ XML Sitemap
  • ปรับปรุงโครงสร้างข้อมูล (Structured Data) เพื่อให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน

  • วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของเว็บไซต์เทียบกับคู่แข่ง
  • ค้นหาโอกาสใหม่ ๆ ในการสร้างกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล เช่น การเพิ่มเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
 

เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย

  • ตรวจสอบว่าหน้าเว็บไซต์มี Call-to-Action (CTA) ที่ชัดเจนและตรงจุดหรือไม่
  • ช่วยให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนผู้เข้าชมเป็นลูกค้า
 

การทำ Site Audit ตรวจเรื่องอะไรบ้าง

1. โครงสร้างเว็บไซต์ (Website Structure)

  • ตรวจสอบความเป็นมิตรกับเครื่องมือค้นหา (Search Engine Friendly) เช่น การใช้ URL ที่อ่านง่าย (SEO-Friendly URL)
  • วิเคราะห์โครงสร้างการเชื่อมโยงภายใน (Internal Linking) ว่าช่วยให้ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาเข้าถึงเนื้อหาได้ง่ายหรือไม่
  • ตรวจสอบว่าหน้าเว็บไซต์มีการตั้งค่า BreadCrumb ที่เหมาะสมหรือไม่

2. ประสิทธิภาพด้านเทคนิค (Technical Performance)

  • ความเร็วในการโหลด (Page Load Speed) ตรวจสอบว่าเว็บไซต์โหลดเร็วพอที่จะลดอัตราการตีกลับ (Bounce Rate) หรือไม่
  • Mobile-Friendly วิเคราะห์การแสดงผลและความเร็วบนอุปกรณ์มือถือ
  • Crawlability และ Indexability ตรวจสอบว่าบอทของเครื่องมือค้นหาสามารถเข้าอ่านเนื้อหาในเว็บไซต์ได้ดีหรือไม่ โดยดูจากไฟล์ Robots.txt และ XML Sitemap
  • การตั้งค่า HTTPS ตรวจสอบว่ามี SSL Certificate ติดตั้งเพื่อเพิ่มความปลอดภัยหรือไม่

3. เนื้อหา (Content Analysis)

  • ตรวจหาเนื้อหาซ้ำ (Duplicate Content) ที่อาจส่งผลต่ออันดับในเครื่องมือค้นหา
  • ตรวจสอบการใช้คีย์เวิร์ด (Keyword Optimization) ใน Title, Meta Description, Header Tags, และเนื้อหา
  • วิเคราะห์ว่ามีเนื้อหาที่ให้ประโยชน์และตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานหรือไม่

4. ประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience - UX)

  • การออกแบบเว็บไซต์ (Design) ตรวจสอบว่าออกแบบให้เข้าใจง่ายและนำทางสะดวกหรือไม่
  • Responsive Design ตรวจสอบว่าเว็บไซต์สามารถแสดงผลได้ดีในทุกขนาดหน้าจอ
  • การมี Call-to-Action (CTA) วิเคราะห์ว่า CTA ถูกออกแบบให้น่าสนใจและชัดเจนหรือไม่

5. ลิงก์ (Link Analysis)

  • Broken Links ค้นหาและแก้ไขลิงก์ที่เสียหรือไม่ทำงาน
  • Backlinks วิเคราะห์คุณภาพของลิงก์ที่เชื่อมมายังเว็บไซต์ (External Links) เพื่อประเมินผลกระทบต่อ SEO
  • ตรวจสอบ Anchor Text ว่าเหมาะสมกับการใช้งานหรือไม่
  •  

6. ความปลอดภัยของเว็บไซต์ (Security Check)

  • ตรวจสอบว่าเว็บไซต์มีการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ เช่น Malware หรือ Phishing
  • ตรวจสอบว่าการป้องกันข้อมูลส่วนตัว (Data Protection) เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น การใช้งาน HTTPS
  •  

7. การวิเคราะห์เมตาดาต้า (Metadata)

  • ตรวจสอบว่า Title Tags และ Meta Descriptions สอดคล้องกับคีย์เวิร์ดหลักหรือไม่
  • ตรวจสอบการใช้ Header Tags (H1, H2, H3) ว่าถูกต้องและช่วยในการทำ SEO หรือไม่

8. การวิเคราะห์ทางสถิติ (Analytics Integration)

  • ตรวจสอบการติดตั้งเครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Google Analytics และ Google Search Console ว่าทำงานได้สมบูรณ์หรือไม่
  • วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งาน (User Behavior) เช่น จำนวนการเข้าชม, หน้า Landing Page, และอัตราการตีกลับ
 

9. การปรับปรุงการเข้าถึง (Accessibility Audit)

  • ตรวจสอบว่าเว็บไซต์มีฟังก์ชันรองรับผู้ใช้งานที่มีความต้องการพิเศษ เช่น การใช้งาน Screen Reader
  • ตรวจสอบว่ามีการใช้ Alt Text ในรูปภาพหรือไม่
 

Have a really
great ideas?